Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
Speedmaster เปิดตัวในปี 1957 แต่เรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศอย่างเป็นทางการนั้นเริ่มต้นในปี 1965 เมื่อ NASA ให้การรับรองนาฬิการุ่นนี้เพื่อนำไปใช้ในภารกิจที่มีมนุษย์ ตั้งแต่นั้นมา นาฬิการุ่นนี้จึงได้ถูกสวมใส่ระหว่างการลงจอดบนดวงจันทร์ทั้งหกครั้ง และได้รับฉายาว่า “Moonwatch”
1962
วอลลี สชิร์รา (Wally Schirra) สวม Speedmaster ของตนระหว่างภารกิจ Mercury เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1962 ซึ่งถือเป็น OMEGA เรือนแรกที่ได้ไปยังอวกาศ
1964
NASA ได้เปิดรับนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟ ซึ่ง OMEGA เป็นหนึ่งในสี่บริษัทที่ส่งนาฬิกาเข้าทดสอบ
1965
ในปี 1965 NASA ประกาศว่า Speedmaster "ได้รับการรับรองสำหรับการบินในทุกภารกิจอวกาศที่มีมนุษย์" โดยได้เปิดตัวครั้งแรกกับ Gemini 3 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม
1965
เพียงสามเดือนต่อมา เอ็ดเวิร์ด ไวท์ (Edward White) ได้สวม Speedmaster ของตนระหว่างการเดินในอวกาศครั้งแรกของอเมริกาในภารกิจ Gemini 4
1969
ในวันที่ 21 กรกฎาคม เมื่อมีการเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ นาฬิกา Speedmaster จึงได้รับชื่อว่า Moonwatch
1970
ในเดือนเมษายน นักบินอวกาศของ Apollo 13 ใช้ Speedmaster เพื่อจับเวลาเปิดใช้งานของเครื่องยนต์ที่ชี้เป็นชี้ตายจนสามารถทำให้พวกเขากลับมาสู่โลกได้อย่างปลอดภัย
1972
ชาร์ลส ดุ๊ก (Charles Duke) ได้ทิ้งภาพถ่ายครอบครัวของเขาไว้บนดวงจันทร์ในฐานะส่วนหนึ่งของ Apollo 16 ในขณะที่จีน เคอร์แนน (Gene Cernan) ผู้บัญชาการของ Apollo 17 ได้ทิ้งรอยเท้าไว้บนดวงจันทร์เป็นครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์
1975
ในเดือนกรกฎาคม จรวด Apollo ของประเทศอเมริกาได้เทียบยาน Soyuz ของสหภาพโซเวียตในอวกาศ ซึ่งนักบินอวกาศทุกคนสวม Speedmaster
“เรื่องราวของ OMEGA Speedmaster ถูกจารึกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมปี 1969 ในฐานะนาฬิกาเรือนแรกที่ที่ถูกใส่บนดวงจันทร์”
การทดสอบโครโนกราฟที่ส่งมายัง NASA ในปี 1964 ต่างเป็นการทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อมุ่งทำลายนาฬิกา ในท้ายที่สุด มีนาฬิกาเพียงเรือนเดียวที่รอดผ่านการทดสอบมาได้ นั่นคือ Speedmaster
ดวงจันทร์นั้นเปี่ยมไปด้วยห้วงอารมณ์และความโรแมนติก ซึ่งแม้จะเคยมีมนุษย์ถึง 12 คนขึ้นไปสำรวจบนพื้นผิวมาแล้ว ก็ยังคงความงดงามและมีเย้ายวนราวกับต้องมนต์ การผจญภัยของนักบินอวกาศในภารกิจอะพอลโลเป็นแรงบันดาลใจให้ Speedmaster Dark Side of the Moon หลายรุ่น รวมถึง Speedmaster Moonphase Master Chronometer รุ่นล่าสุด
ภาพได้รับความอนุเคราะห์จาก NASA และ ESA