Skip to content
OMEGA constellation deville seamaster speedmaster specialities

“หน้าปัดอันเป็นเอกลักษณ์แต่ละชิ้นถูกรังสรรค์จากชิ้นส่วนอุกกาบาตดึกดำบรรพ์

Constellation Meteorite 41 mm - close-up - steel with grey dial

เทคโนโลยีสี

เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของหน้าปัดแต่ละรุ่นให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น OMEGA จึงใช้เทคโนโลยีสีที่ทันสมัยที่สุด เช่น PVD และการชุบกัลวานิก วิธีการระดับนวัตกรรมใหม่นี้ทำให้มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากมายให้เลือกสรร

CO Meteorite 41 mm - steel - close-up grey dial

วัสดุหลัก

  • วัสดุ - สแตนเลสสตีล

    สแตนเลสสตีล

  • วัสดุ - เซรามิก

    เซรามิก

  • วัสดุ - อุกกาบาต

    อุกกาบาต

  • วัสดุ - Liquidmetal<sup>TM</sup>

    LiquidmetalTM

  • วัสดุ - คริสตัลแซฟไฟร์

    คริสตัลแซฟไฟร์

สแตนเลสสตีล

สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย

เซรามิก

OMEGA มีความเชี่ยวชาญในการใช้เซรามิกแบบที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เซรามิกมีต้นรากมาจากคำในภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นโดยแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสแตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก

อุกกาบาต

อุกกาบาตเป็นหินธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดจากนอกโลกโดยมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นเหล็ก จากสายสัมพันธ์ของ OMEGA กับอวกาศที่มีมาอย่างยาวนานจึงทำให้การเลือกใช้วัสดุชนิดนี้มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง อุกกาบาตประเภทเหล็กนับเป็นของขวัญชั้นเลิศให้กับนักออกแบบเนื่องจากโครงสร้างแบบ Widmanstätten ที่เป็นลวดลายแนวเส้นตัดกันซึ่งจะเผยให้เห็นหลังนำไปผ่านกระบวนการพิเศษ

LiquidmetalTM

นับตั้งแต่ปี 2010 แบรนด์ OMEGA ได้จับคู่เซรามิกเข้ากับอัลลอยด์ที่มีชื่อว่า LiquidmetalTM มอบความเป็นไปได้ใหม่ในการตกแต่งเรือนเวลาด้วยโลหะสีเทาซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมและมีความเสถียรอย่างยิ่ง อัลลอยด์ชนิดนี้ได้จากการผสมไทเทเนียม เซอร์โคเนียม และทองแดง มันมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลถึงสามเท่า เมื่อ LiquidmetalTM สร้างพันธะกับเซรามิกแล้วก็จะฉายแววโดดเด่น โดยอัลลอยด์สามารถถูกขัดแต่งจนตัดกันได้อย่างลงตัว (ขัดด้านหรือขัดเงา) เนื่องจากคุณสมบัติความแข็งที่แตกต่างกันระหว่างวัสดุสองชนิด

คริสตัลแซฟไฟร์

แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา

ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้

อุปกรณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในนาฬิการุ่นนี้ประกอบด้วนชิ้นส่วนที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงมาตรฐานการทำงานในระดับสูงสุด OMEGA สามารถก้าวผ่านทุกความท้าทายที่สำคัญ ตั้งแต่การใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial เพื่อความแม่นยำที่ยาวนาน ไปจนถึงการใช้สายใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิกอนเพื่อการต้านสนามแม่เหล็กที่เหนือชั้นกว่า

กลไก OMEGA คาลิเบอร์ 8900

Calibre 8900

ระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial กลไก Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมสปริงบาลานซ์ซิลิกอน สองบาร์เรลติดตั้งเรียงกัน พร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ฟังก์ชั่นบอกเขตเวลา ยังมีการตกแต่งที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยโรเตอร์และบริดจ์ชุบด้วยโรเดียม และลายเจนีวาเวฟแบบอาหรับ

  • ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
  • พลังงานสำรอง 60 ชั่วโมง
  • ความถี่ 3.5 Hz
Calibre 8900

Constellationคอลเลคชั่นสำหรับสุภาพบุรุษ

เรียนรู้เพิ่มเติม

คุณอาจชอบ