ติดต่อบูติก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ขออภัย นาฬิกาเรือนนี้ไม่มีจำหน่ายแล้ว
ค้นหานาฬิกาเรือนอื่นเรือนเวลาที่งดงามสะกดสายตารุ่นนี้คือเพื่อนคู่ใจในอุดมคติสำหรับสตรีที่ปรารถนาความแตกต่างในด้านสไตล์และความสง่างาม
ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ หน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวถูกประดับลายดอกไม้อันประณีตซึ่งร้อยเรียงขึ้นจากสัญลักษณ์ของ OMEGA ห้าชิ้น รังสรรค์จากทอง Sedna™ 18K และเพชรที่งดงามตระการตา
ตัวเรือนและเข็มนาฬิกาทรงอัลฟ่ารังสรรค์จากทอง Sedna™ 18K และขอบตัวเรือนโดดเด่นด้วยการประดับเพชรแบบสโนว์เซ็ต การผสมผสานที่ลงตัวนี้ยังปรากฏบนตัวเชื่อมสายซึ่งติดตั้งอยู่กับสายหนังปัดเงาแบบซาตินราวเปลือกหอยมุกสีขาว
เครื่องบอกเวลาที่สะกดสายตาซึ่งขับเคลื่อนด้วย Co-Axial Calibre 8421 ของ OMEGA นี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วยเพชรเจียระไน "Brilliant OMEGA" ซึ่งฝังไว้บนเม็ดมะยมขัดเงา
ฝาหลังตัวเรือนแบบเปลือยมักจะผลิตขึ้นจากกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งทำให้สามารถชมกลไกภายในนาฬิกาได้
อัญมณีล้ำค่าที่เปล่งประกายและมีความแข็งมากที่สุด โดยการคำนวณมูลค่าตามเกณฑ์ 4C: การเจียระไน - กะรัต - ความสะอาด - สี
เม็ดมะยมแบบล็อคในตัวที่ขันเกลียวเข้า ยึดกับก้านของตัวเรือน ถูกติดตั้งให้กับนาฬิกานักดำน้ำที่มี ความสามารถในการกันน้ำสูง
เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
1 / 4
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K ทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
2 / 4
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
3 / 4
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
4 / 4
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K ทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
กลไกระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial ระบบสปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน สามารถขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง โรเตอร์และบาลานซ์บริดจ์ที่ทำจากเรดโกลด์ 18 กะรัต การตกแต่งที่หรูหราด้วยลายคลื่น Geneva แบบอาหรับสุดพิเศษ