ติดต่อบูติก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ขออภัย นาฬิกาเรือนนี้ไม่มีจำหน่ายแล้ว
ค้นหานาฬิกาเรือนอื่นนาฬิกา OMEGA De Ville Tourbillon แต่ละเรือนนั้นแสดงถึงศาสตร์และศิลป์แห่งการผลิตเรือนเวลาชั้นเลิศ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยมืออย่างพิถีพิถันและมีเอกลักษณ์ เป็นการผสมผสานความงามที่ตรึงตาตรึงใจเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัยได้อย่างลงตัว นาฬิกาเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกเซ็นทรัลตูร์บิญงที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของ OMEGA ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในกรงตูร์บิญงที่คอยปกป้องนาฬิกาจากผลกระทบของแรงโน้มถ่วง นาฬิการุ่นนี้รังสรรค์ขึ้นเพียง 3 เรือนเท่านั้น
ด้วยกระจกแซฟไฟร์บนหน้าปัดที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและหลักชั่วโมงทองยังช่วยนำเสนอมุมมองกลไกการทำงานภายในนาฬิกาได้อย่างน่าดึงดูด เข็มวินาทีเรดโกลด์ 18K ติดตั้งอยู่บนกรงตูร์บิญงไทเทเนียมโดยตรง ตัวเรือนแพลตินัม 950 ขนาด 38.7 มม.ประดับเพชรทรงบาแก็ตต์ 170 เม็ด และกลไกประดับเพชรเจียระไนทรงเหลี่ยมกุหลาบ 289 เม็ด นาฬิกาเรือนนี้นำเสนอบนสายหนังสีเทาพร้อมเย็บด้วยด้ายสีแพลตินัม นาฬิกาที่แสนมหัศจรรย์เรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Co-Axial calibre 2635 ซึ่งมีจานทำจากแพลตินัม 950 ชื่อย่อของช่างผลิตนาฬิกาจะถูกสลักอยู่ที่ด้านหลังเมนเพลทของตูร์บิญง
ซีรีส์ของนาฬิกาที่มีการกำหนดจำนวนการผลิตล่วงหน้าก่อนการผลิต และมีการจำกัดหมายเลขชุดเอาไว้
อัญมณีล้ำค่าที่เปล่งประกายและมีความแข็งมากที่สุด โดยการคำนวณมูลค่าตามเกณฑ์ 4C: การเจียระไน - กะรัต - ความสะอาด - สี
เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
1 / 3
แพลตินัมเป็นวัสดุชั้นสูงที่หายากซึ่งโดดเด่นด้วยสีขาวเหลือบเงิน ความทนทานและความวาวเจิดจรัส อีกทั้งยังเป็นโลหะที่แทบไม่ทำปฏิกิริยาและมีคุณสมบัติทนทานต่อการสึกกร่อนสูง ความหายากของวัสดุชนิดนี้เป็นตัวแทนถึงความพิเศษและความหรูหรา OMEGA จึงเลือกแพลตินัม 950 มารังสรรค์เรือนเวลาระดับสูง นาฬิกาเหล่านี้มอบโฉมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และมาพร้อมผิวสัมผัสพิเศษกว่าวัสดุอื่นใดให้กับผู้สวมใส่
2 / 3
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
3 / 3
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
แพลตินัมเป็นวัสดุชั้นสูงที่หายากซึ่งโดดเด่นด้วยสีขาวเหลือบเงิน ความทนทานและความวาวเจิดจรัส อีกทั้งยังเป็นโลหะที่แทบไม่ทำปฏิกิริยาและมีคุณสมบัติทนทานต่อการสึกกร่อนสูง ความหายากของวัสดุชนิดนี้เป็นตัวแทนถึงความพิเศษและความหรูหรา OMEGA จึงเลือกแพลตินัม 950 มารังสรรค์เรือนเวลาระดับสูง นาฬิกาเหล่านี้มอบโฉมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และมาพร้อมผิวสัมผัสพิเศษกว่าวัสดุอื่นใดให้กับผู้สวมใส่
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
และหัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้คือระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ความเค้นบนชิ้นส่วนเคลื่อนไหวที่น้อยลงย่อมหมายถึงความต้องการในการหล่อลื่นที่น้อยลง ความแม่นยำที่ยาวนานขึ้น และอัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งขึ้น โดยสรุปคือ นาฬิการุ่นนี้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นและยังใช้งานได้ยาวนานกว่า
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
1 / 5
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
2 / 5
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
3 / 5
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
4 / 5
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
5 / 5
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว