Ultra Deep

Seamaster Planet Ocean 6000M 45.5 มม., O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

45.5 มม., O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

รายละเอียด รายละเอียด
O‑MEGASTEEL บน สายนาฬิกายาง

45.5 มม., O‑MEGASTEEL บน สายนาฬิกายาง

รายละเอียด รายละเอียด
ไทเทเนียม บน สาย NATO

45.5 มม., ไทเทเนียม บน สาย NATO

รายละเอียด รายละเอียด
O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

45.5 มม., O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

รายละเอียด รายละเอียด
selected

O‑MEGASTEEL บน สายนาฬิกายาง

45.5 มม., O‑MEGASTEEL บน สายนาฬิกายาง

รายละเอียด รายละเอียด
O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

45.5 มม., O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

รายละเอียด รายละเอียด

นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน

OMEGA ภาคภูมิใจในการเครื่องหมาย Swiss Made ที่ประทับบนนาฬิกาทุกเรือน ถ้อยคำเรียบง่ายนี้บ่งบอกถึงการรับประกันมาตรฐานคุณภาพที่สั่งสมมานานหลายศตวรรษ จวบจนเป็นสัญลักษณ์ด้านความเป็นเลิศที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ในฐานะส่วนหนึ่งของการสำรวจ Five Deeps Expedition ในปี 2019 Ultra Deep สร้างประวัติศาสตร์ให้กับแบรนด์เมื่อได้ไปเยือนจุดที่ลึกที่สุดในโลก หลังจากการดำน้ำสถิติโลกครั้งนั้น มีการพลิกโฉมนาฬิกาให้เป็นคอลเลคชั่นพิเศษที่วางจำหน่ายให้สาธารณชนทั่วไปได้ครอบครอง ผ่านการทดสอบในสภาพมหาสมุทรจริงในระหว่างการพัฒนา การออกแบบนาฬิกาให้สามารถกันน้ำได้ลึก 6,000 เมตร (20,000 ฟุต) และเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 6425:2018 สำหรับการดำน้ำแบบอิ่มตัว

นาฬิการุ่น 45.5 มม. ถูกผลิตขึ้นด้วย O-MEGASTEEL ซึ่งเป็นวัสดุที่แสนทนทาน มีขอบหน้าปัดเซรามิกสีดำขัดเงาพร้อมสเกลดำน้ำที่รังสรรค์จาก Liquidmetal™ กระจกแซฟไฟร์ทรงโดม มาพร้อมหน้าปัดเคลือบแลคเกอร์แบบไล่เฉดสีตั้งแต่สีน้ำเงินไปจนถึงสีดำ เข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงทำจากไวท์โกลด์ 18K พร้อมบรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว

นาฬิกาได้รับการติดตั้งบนสาย O-MEGASTEEL หัวสายแบบแร็คแอนด์พุชเชอร์ (rack-and-pusher) ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ OMEGA พร้อมระบบปรับความยาวและส่วนต่อขยายสำหรับนักดำน้ำ ในขณะที่เหรียญไททาเนียมเกรด 5 ของตัวเรือนด้านหลังมีสัญลักษณ์ Sonar ที่แกะสลักด้วยเลเซอร์พร้อมสัญลักษณ์ OMEGA Seahorse ที่ศูนย์กลาง ภายในนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 8912

ข้อมูลอ้างอิง: 215.30.46.21.03.001
ขนาดขานาฬิกา Open Case Measurement Modal: 22 มม.
ความยาวรวมขาสายนาฬิกา Open Case Measurement Modal: 51.9 ซม.
ความหนา Open Case Measurement Modal: 18.1 มม.
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน Open Case Measurement Modal: 45.5 มม.
ตัวเรือน: O‑MEGASTEEL
สีของหน้าปัด: สีน้ำเงิน
คริสตัล: กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมทนทานต่อรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน
คุณสมบัติการกันน้ำ: 600 บาร์ (6000 ม. / 20000 ฟุต)
น้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ (โดยประมาณ): 254 ก.
คาลิเบอร์: Omega 8912
ประเภทกลไก: ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
พลังงานสำรอง: 60 ชั่วโมง

วัสดุ: O‑MEGASTEEL
ประเภทของหัวสาย: หัวสายแบบพับพร้อมระบบขยายความยาวสายสำหรับกิจกรรมใต้น้ำ

เอกสารผลิตภัณฑ์

นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำระดับมืออาชีพ

ได้รับการรับรองว่าเป็นนาฬิกาสำหรับนักประดาน้ำเพื่อการดำน้ำแบบอิ่มตัว

เพื่อรับประกันความสามารถของ Ultra Deep ในฐานะนาฬิกาของนักดำน้ำสำหรับการดำน้ำแบบอิ่มตัว นาฬิกาได้รับการทดสอบเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 6425:2018 โดยมีการทดสอบเก้ารายการและรวมถึงการทดสอบด้านการมองเห็น การต้านทานแม่เหล็ก การหมุนเวียนของอุณหภูมิ การทดสอบสเปรย์เกลือ การต้านทานแรงกระแทก การกันน้ำ ทดสอบการกระแทกจากการตกในแนวดิ่ง ความต้านทานของข้อสาย และการดำน้ำแบบอิ่มตัว METAS ให้การรับรองว่านาฬิกาผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด

วัสดุหลัก

ไทเทเนียมเกรด 5
ไวท์โกลด์
เซรามิก
O‑megasteel
Liquidmetal^TM
คริสตัลแซฟไฟร์

1 / 6

ไทเทเนียมเกรด 5

ไทเทเนียมอัลลอยด์มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการสึกกร่อน ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมี และสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสุดขั้ว คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันเหมาะกับการผลิตในอุตสาหกรรมอากาศยาน ยานอวกาศ และการแพทย์ มันคือส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างความแข็งแรง ความทนต่อการสึกกร่อนและการใช้งานได้จริง ไทเทเนียมเกรด 5 ให้สีเทาสว่างคล้ายกับสแตนเลสสตีล เหมาะกับการขัดแต่งทั้งแบบ “ขัดด้าน” และ “ขัดเงา”
2 / 6

ไวท์โกลด์

ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง ไวท์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการผสมพัลลาเดียม-ทองแดง ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีอ่อนสวยงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
3 / 6

เซรามิก

OMEGA มีความเชี่ยวชาญในการใช้เซรามิกแบบที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เซรามิกมีต้นรากมาจากคำในภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นโดยแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสแตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
4 / 6

O‑megasteel

O‑MEGASTEEL คือโลหะผสมสแตนเลสประสิทธิภาพสูงชนิดใหม่ ผ่านกระบวนการ Pressure Electro Slag Remelting อันแยบยล วัสดุจึงมีความบริสุทธิ์สูง ช่วยให้แลดูเงางามยิ่งขึ้นและส่องประกายอย่างเหนือระดับ เมื่อถอดนิกเกิลและเสริมด้วยไนโตรเจนและแมงกานีส O‑MEGASTEEL ยังให้สีขาวในโทนที่สว่างกว่า รวมทั้งมีความทนทานและความแข็งที่เหนือกว่าเหล็กทั่วไป 40% ถึง 50% องค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ยังให้ความทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นพิเศษเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
5 / 6

Liquidmetal^TM

นับตั้งแต่ปี 2010 แบรนด์ OMEGA ได้จับคู่เซรามิกเข้ากับอัลลอยด์ที่มีชื่อว่า Liquidmetal^TM มอบความเป็นไปได้ใหม่ในการตกแต่งเรือนเวลาด้วยโลหะสีเทาซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมและมีความเสถียรอย่างยิ่ง อัลลอยด์ชนิดนี้ได้จากการผสมไทเทเนียม เซอร์โคเนียม และทองแดง มันมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลถึงสามเท่า เมื่อ Liquidmetal^TM สร้างพันธะกับเซรามิกแล้วก็จะฉายแววโดดเด่น โดยอัลลอยด์สามารถถูกขัดแต่งจนตัดกันได้อย่างลงตัว (ขัดด้านหรือขัดเงา) เนื่องจากคุณสมบัติความแข็งที่แตกต่างกันระหว่างวัสดุสองชนิด
6 / 6

คริสตัลแซฟไฟร์

หน้าปัดของนาฬิกาเรือนนี้ได้รับการป้องกันด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งผลิตโดย OMEGA จากการใช้กระบวนการเฉพาะที่เรียกว่า EFG “Edge-defined Film-fed Growth” หรือ EFG จะทำให้คริสตัลที่ได้ปราศจากตำหนิ มอบประสิทธิภาพสูงสุดให้กับกระจกแซฟไฟร์ จากนั้นแผ่นแซฟไฟร์ที่ผลิตด้วยกระบวนการ EFG จะถูกนำมาตัดออกเป็นแผ่น กลึงและขัดเงา เพื่อทำให้ผลึกแซฟไฟร์มีความแข็งแกร่งและความใสเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการอ่านเวลา

ไทเทเนียมเกรด 5

ไทเทเนียมอัลลอยด์มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการสึกกร่อน ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมี และสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสุดขั้ว คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันเหมาะกับการผลิตในอุตสาหกรรมอากาศยาน ยานอวกาศ และการแพทย์ มันคือส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างความแข็งแรง ความทนต่อการสึกกร่อนและการใช้งานได้จริง ไทเทเนียมเกรด 5 ให้สีเทาสว่างคล้ายกับสแตนเลสสตีล เหมาะกับการขัดแต่งทั้งแบบ “ขัดด้าน” และ “ขัดเงา”

ไวท์โกลด์

ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง ไวท์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการผสมพัลลาเดียม-ทองแดง ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีอ่อนสวยงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

เซรามิก

OMEGA มีความเชี่ยวชาญในการใช้เซรามิกแบบที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เซรามิกมีต้นรากมาจากคำในภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นโดยแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสแตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก

O‑megasteel

O‑MEGASTEEL คือโลหะผสมสแตนเลสประสิทธิภาพสูงชนิดใหม่ ผ่านกระบวนการ Pressure Electro Slag Remelting อันแยบยล วัสดุจึงมีความบริสุทธิ์สูง ช่วยให้แลดูเงางามยิ่งขึ้นและส่องประกายอย่างเหนือระดับ เมื่อถอดนิกเกิลและเสริมด้วยไนโตรเจนและแมงกานีส O‑MEGASTEEL ยังให้สีขาวในโทนที่สว่างกว่า รวมทั้งมีความทนทานและความแข็งที่เหนือกว่าเหล็กทั่วไป 40% ถึง 50% องค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ยังให้ความทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นพิเศษเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

Liquidmetal^TM

นับตั้งแต่ปี 2010 แบรนด์ OMEGA ได้จับคู่เซรามิกเข้ากับอัลลอยด์ที่มีชื่อว่า Liquidmetal^TM มอบความเป็นไปได้ใหม่ในการตกแต่งเรือนเวลาด้วยโลหะสีเทาซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมและมีความเสถียรอย่างยิ่ง อัลลอยด์ชนิดนี้ได้จากการผสมไทเทเนียม เซอร์โคเนียม และทองแดง มันมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลถึงสามเท่า เมื่อ Liquidmetal^TM สร้างพันธะกับเซรามิกแล้วก็จะฉายแววโดดเด่น โดยอัลลอยด์สามารถถูกขัดแต่งจนตัดกันได้อย่างลงตัว (ขัดด้านหรือขัดเงา) เนื่องจากคุณสมบัติความแข็งที่แตกต่างกันระหว่างวัสดุสองชนิด

คริสตัลแซฟไฟร์

หน้าปัดของนาฬิกาเรือนนี้ได้รับการป้องกันด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งผลิตโดย OMEGA จากการใช้กระบวนการเฉพาะที่เรียกว่า EFG “Edge-defined Film-fed Growth” หรือ EFG จะทำให้คริสตัลที่ได้ปราศจากตำหนิ มอบประสิทธิภาพสูงสุดให้กับกระจกแซฟไฟร์ จากนั้นแผ่นแซฟไฟร์ที่ผลิตด้วยกระบวนการ EFG จะถูกนำมาตัดออกเป็นแผ่น กลึงและขัดเงา เพื่อทำให้ผลึกแซฟไฟร์มีความแข็งแกร่งและความใสเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการอ่านเวลา

โฉมใหม่สำหรับนาฬิกาของคุณ

นาฬิกาและสายของคุณควรเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทดลองการจับคู่ในรูปแบบต่างๆ ได้ ลองนำมาจับคู่กันดูว่าเป็นอย่างไร? คุณอาจค้นพบโฉมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับคุณก็ได้

ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้

อุปกรณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในนาฬิการุ่นนี้ประกอบด้วนชิ้นส่วนที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงมาตรฐานการทำงานในระดับสูงสุด OMEGA สามารถก้าวผ่านทุกความท้าทายที่สำคัญ ตั้งแต่การใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial เพื่อความแม่นยำที่ยาวนาน ไปจนถึงการใช้สายใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิกอนเพื่อการต้านสนามแม่เหล็กที่เหนือชั้นกว่า

1 / 6

การรับรอง MASTER CHRONOMETER

ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น

มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่น

นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประการแรก กลไกที่ใช้ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC) จากนั้น ตัวเรือนและกลไกของนาฬิกาจะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ทั้งแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+5 วินาทีต่อวัน

ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
2 / 6

การรับรอง MASTER CHRONOMETER

ต้านทานสนามแม่เหล็ก

กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก

ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อกบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิกอน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้

ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
3 / 6

การรับรอง MASTER CHRONOMETER

คุณสมบัติการกันน้ำ

เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป

ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
4 / 6

รับประกัน 5 ปี

ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
5 / 6

ต้องการการบริการน้อย

การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
6 / 6

ต้านทานแรงกระแทก

นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว

กลไก OMEGA คาลิเบอร์ 8912

ระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial กลไก Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน สองบาร์เรลติดตั้งเรียงกัน พร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ฟังก์ชั่นบอกเขตเวลา การตกแต่งที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยลายคลื่น Geneva แบบอาหรับ

ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
พลังงานสำรอง 60 ชั่วโมง
ความถี่ 3.5 Hz

Seamaster Planet Ocean 6000M - คอลเลคชั่น

Planet OceanUltra Deep

เรียนรู้เพิ่มเติม

Ultra Deep

Seamaster Planet Ocean 6000M 45.5 มม., O‑MEGASTEEL บน O‑MEGASTEEL

ติดต่อบูติก

ขอขอบคุณที่คุณให้ความสนใจ

นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำระดับมืออาชีพ