2 Variations
-
สตีล บน สายหนังพร้อมบุด้วยยาง
43.5 มม., สตีล บน สายหนังพร้อมบุด้วยยาง
-
สตีล บน สตีล
43.5 มม., สตีล บน สตีล
Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ราคาขายปลีกที่แนะนำ (รวม VAT)
Seamaster Seamaster Planet Ocean 600M 43.5 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
finale price
จำนวน:qty
:
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
OMEGA ภาคภูมิใจในการเครื่องหมาย Swiss Made ที่ประทับบนนาฬิกาทุกเรือน ถ้อยคำเรียบง่ายนี้บ่งบอกถึงการรับประกันมาตรฐานคุณภาพที่สั่งสมมานานหลายศตวรรษ จวบจนเป็นสัญลักษณ์ด้านความเป็นเลิศที่มีชื่อเสียงระดับโลก
แบรนด์ได้เปิดตัวสายการผลิต Planet Ocean ในปี 2005 โดยระลึกถึงเรื่องราวอันเป็นตำนานทางทะเลของ OMEGA เพื่ออุทิศให้กับตัวตนทางทะเลที่สั่งสมมาของ OMEGA OMEGA Seamaster Planet Ocean 600M Master Chronometer GMT ที่เปี่ยมไปด้วยสไตล์นั้นนับเป็นการยกย่องให้กับนาฬิกาดำน้ำในอดีตของ OMEGA
นาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดเซรามิกสีดำพร้อมตัวเลขอารบิก หน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาและเข็มนาฬิกา GMT กลาง รวมถึงกระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ขอบตัวเรือนที่ถูกติดตั้งบนตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 43.5 มม. ทำจากเซรามิกสองสี คือสีดำ และสีขาวขัดเงาแบบแรกของโลก อีกทั้งตัวเลขและสเกลจะถูกนำเสนอในสีที่ตัดกันเพื่อแยกเวลากลางคืนออกจากกลางวัน
รายละเอียดอื่นๆ ประกอบด้วย ฝาหลังขันเกลียวแบบ Alveol พร้อมทั้งสายนาฬิกาที่ทำจากสแตนเลสสตีลและหันสายแบบบานพับและขยายได้ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตร
OMEGA Seamaster Planet Ocean 600M Master Chronometer GMT กันน้ำได้ถึง 60 บาร์ (600 เมตร / 2,000 ฟุต) และมาพร้อมกับฮีเลียมวาล์ว สามารถชมการทำงานของหัวใจจักรกล OMEGA Master Chronometer calibre 8906 ของนาฬิการุ่นนี้ได้ผ่านฝาหลังที่ติดตั้งกระจกแซฟไฟร์ นาฬิการุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบอันเข้มงวด 8 รายการที่กำหนดโดย METAS (สถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส) เพื่อรับรองสถานะ Master Chronometer
ฟังก์ชั่นนาฬิกา GMT คือนาฬิกาที่มีเข็มชั่วโมงเข็มที่สอง โดยจะหมุนครบหนึ่งรอบภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง และมีเข็มบอกเวลา 24 ชั่วโมงบนหน้าปัด ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้สวมใส่ที่ประสงค์ที่จะทราบเวลาในสองเขตเวลา
ขอบตัวเรือนสามารถหมุนแบบตามเข็ม หรือทวนเข็มนาฬิกาก็ได้ ขอบตัวเรือนแบบหมุนได้สามารถใช้ในการจับเวลากิจกรรม จับเวลาที่ใช้ไป หรืออ่านเขตเวลาที่สองหรือสามก็ได้
ทั้งนี้กลไกจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากสนามแม่เหล็กที่เข้มข้น แม้กระทั่งสนามแม่เหล็กที่มีค่าสูงกว่า 1.5 เทสลา (15,000 เกาส์) ก็ตาม
การรับประกัน ถึงมาตรฐานความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพ และ ความสามารถในการทนต่อสนามแม่เหล็กในระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมสวิส ตามที่กำหนดไว้โดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS)
ฝาหลังตัวเรือนแบบเปลือยมักจะผลิตขึ้นจากกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งทำให้สามารถชมกลไกภายในนาฬิกาได้
ช่วยให้ปรับเข็มชั่วโมงเป็นโซนเวลาต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องหยุดนาฬิกา
วันของเดือนที่ปรากฏอยู่ในหน้าต่างบนหน้าปัดนาฬิกาที่ตำแหน่ง 3 หรือ 6 นาฬิกา หรือภายในหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา
ระบบปรับแรงดันที่จะช่วยให้สามารถระบายฮีเลียมออกจากตัวเรือนนาฬิการะหว่างที่นักดำน้ำมืออาชีพใช้ห้องปรับความดัน (ทำงานใต้น้ำเป็นระยะเวลานาน การสำรวจหาน้ำมันดิบ ฯลฯ)
เม็ดมะยมแบบล็อคในตัวที่ขันเกลียวเข้า ยึดกับก้านของตัวเรือน ถูกติดตั้งให้กับนาฬิกานักดำน้ำที่มี ความสามารถในการกันน้ำสูง
เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
1 / 3
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
2 / 3
OMEGA มีความเชี่ยวชาญในการใช้เซรามิกแบบที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เซรามิกมีต้นรากมาจากคำในภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นโดยแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสแตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
3 / 3
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
OMEGA มีความเชี่ยวชาญในการใช้เซรามิกแบบที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เซรามิกมีต้นรากมาจากคำในภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นโดยแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสแตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
นาฬิกาและสายของคุณควรเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทดลองการจับคู่ในรูปแบบต่างๆ ได้ ลองนำมาจับคู่กันดูว่าเป็นอย่างไร? คุณอาจค้นพบโฉมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับคุณก็ได้
ค้นหาสายนาฬิกาที่ใช่ของคุณ
กำหนดค่าสายนาฬิกาของคุณ
/
อุปกรณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในนาฬิการุ่นนี้ประกอบด้วนชิ้นส่วนที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงมาตรฐานการทำงานในระดับสูงสุด OMEGA สามารถก้าวผ่านทุกความท้าทายที่สำคัญ ตั้งแต่การใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial เพื่อความแม่นยำที่ยาวนาน ไปจนถึงการใช้สายใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิกอนเพื่อการต้านสนามแม่เหล็กที่เหนือชั้นกว่า
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่น
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประการแรก กลไกที่ใช้ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC) จากนั้น ตัวเรือนและกลไกของนาฬิกาจะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ทั้งแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+5 วินาทีต่อวัน
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อกบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิกอน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
1 / 6
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่น
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประการแรก กลไกที่ใช้ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC) จากนั้น ตัวเรือนและกลไกของนาฬิกาจะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ทั้งแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+5 วินาทีต่อวัน
2 / 6
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อกบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิกอน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
3 / 6
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
4 / 6
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
5 / 6
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
6 / 6
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial กลไก Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ GMT และฟังก์ชั่นบอกเขตเวลา สปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมสปริงบาลานซ์ซิลิกอน สองบาร์เรลติดตั้งเรียงกัน พร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ยังมีการตกแต่งที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยโรเตอร์และบริดจ์ชุบด้วยโรเดียม และลายเจนีวาเวฟแบบอาหรับ