3 Variations
-
เรดโกลด์
70 มม., เรดโกลด์
-
เยลโลว์โกลด์
70 มม., เยลโลว์โกลด์
-
ไวท์โกลด์
70 มม., ไวท์โกลด์
Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ราคาขายปลีกที่แนะนำ (รวม VAT)
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
OMEGA ภาคภูมิใจในการเครื่องหมาย Swiss Made ที่ประทับบนนาฬิกาทุกเรือน ถ้อยคำเรียบง่ายนี้บ่งบอกถึงการรับประกันมาตรฐานคุณภาพที่สั่งสมมานานหลายศตวรรษ จวบจนเป็นสัญลักษณ์ด้านความเป็นเลิศที่มีชื่อเสียงระดับโลก
นาฬิกา OMEGA Olympic Pocket Watch ขับเคลื่อนโดยชิ้นส่วนกลไกที่เพิ่งค้นพบในคลัง ณ สำนักงานใหญ่ของ OMEGA ที่เมืองบีลซึ่งอยู่ในนั้นมาตั้งแต่ปี 1932 นาฬิกาพกโครโนกราฟปี 1932 อันน่าอัศจรรย์รุ่นนี้ได้ถูกนำมาชุบชีวิตด้วยตัวเรือนไวท์โกลด์ 18K และนับเป็นหนึ่งในผลงานที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์มากที่สุดของแบรนด์
ในชุดนาฬิการุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นที่ผลิตเพียง 100 เรือน นาฬิกาเรือนนี้ปรากฏด้วยหน้าปัดสีขาวพร้อมหน้าปัดย่อยแสดงวินาที หน้าปัดจับเวลา 30 นาที เข็มโครโนกราฟตรงกลาง และเข็มสปลิตเซกันด์ ฝาหลังประทับตราสัญลักษณ์วงแหวนห้าห่วงอันเป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และเมื่อเปิดออกก็จะเผยให้เห็นกลไกแบบไขลาน OMEGA calibre 3889 ที่อยู่ภายใน
ซีรีส์ของนาฬิกาที่มีการกำหนดจำนวนการผลิตล่วงหน้าก่อนการผลิต และมีการจำกัดหมายเลขชุดเอาไว้
เข็มบนหน้าปัดย่อยที่แสดงเวลาวินาที โดยทั่วไปจะหมุนครบรอบในระยะเวลาหนึ่งนาที
ฟังก์ชั่นโครโนกราฟเป็นกลไกในการบอกแต่ละช่วงเวลา ด้วยเหตุนี้เอง นาฬิกาโครโนกราฟจึงสามารถจับเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ในขณะที่แสดงเวลาได้เหมือนกับนาฬิกาทั่วไป
เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
1 / 2
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง ไวท์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการผสมพัลลาเดียม-ทองแดง ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีอ่อนสวยงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
2 / 2
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง ไวท์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการผสมพัลลาเดียม-ทองแดง ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีอ่อนสวยงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
และหัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้คือระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ความเค้นบนชิ้นส่วนเคลื่อนไหวที่น้อยลงย่อมหมายถึงความต้องการในการหล่อลื่นที่น้อยลง ความแม่นยำที่ยาวนานขึ้น และอัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งขึ้น โดยสรุปคือ นาฬิการุ่นนี้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นและยังใช้งานได้ยาวนานกว่า
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
1 / 5
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
2 / 5
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
3 / 5
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
4 / 5
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
5 / 5
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว