The store will not work correctly when cookies are disabled.
Breadcrumb
วัสดุหลัก
-
1 / 3
ทอง SednaTM
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K ทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
-
2 / 3
Canopus GoldTM
OMEGA ได้ใช้ Canopus GoldTM ซึ่งเป็นไวท์โกลด์อัลลอยด์ 18K ตั้งแต่ปี 2015 นอกจากจะให้ความหรูหราในทุกอณู ทองชนิดนี้ยังถูกจัดไว้ในกลุ่มทอง 18K แบบเดียวกับทองชนิดอื่นๆ Canopus Gold™ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติความแวววาวสูง ความขาว และทนทานไม่ซีดจาง มันจึงเป็นวัสดุในอุดมคติของเรือนเวลาชั้นสูงหรือนาฬิกาประดับเพชร
อัลลอยด์ชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อตามดาว Canopus อันสุกสกาวซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ 71 เท่าและสว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10,000 เท่า เนื่องจากความสว่างและตำแหน่ง ทำให้ Canopus กลายเป็นดาวที่องค์กรอวกาศหลายแห่งใช้อ้างอิงเสมอ
โดยมีส่วนประกอบที่ไม่เหมือนใครด้วยแพลตินัม โรเดียม และพัลลาเดียม ที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
-
3 / 3
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
ทอง SednaTM
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K ทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
Canopus GoldTM
OMEGA ได้ใช้ Canopus GoldTM ซึ่งเป็นไวท์โกลด์อัลลอยด์ 18K ตั้งแต่ปี 2015 นอกจากจะให้ความหรูหราในทุกอณู ทองชนิดนี้ยังถูกจัดไว้ในกลุ่มทอง 18K แบบเดียวกับทองชนิดอื่นๆ Canopus Gold™ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติความแวววาวสูง ความขาว และทนทานไม่ซีดจาง มันจึงเป็นวัสดุในอุดมคติของเรือนเวลาชั้นสูงหรือนาฬิกาประดับเพชร
อัลลอยด์ชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อตามดาว Canopus อันสุกสกาวซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ 71 เท่าและสว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10,000 เท่า เนื่องจากความสว่างและตำแหน่ง ทำให้ Canopus กลายเป็นดาวที่องค์กรอวกาศหลายแห่งใช้อ้างอิงเสมอ
โดยมีส่วนประกอบที่ไม่เหมือนใครด้วยแพลตินัม โรเดียม และพัลลาเดียม ที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา