ติดต่อบูติก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ขออภัย นาฬิกาเรือนนี้ไม่มีจำหน่ายแล้ว
ค้นหานาฬิกาเรือนอื่นOMEGA Speedmaster เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของ OMEGA นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ในการเดินทางสู่ดวงจันทร์ทั้งหกครั้งแล้ว Speedmaster ระดับตำนานนี้ในตำนานยังเป็นสัญลักษณ์ชั้นเยี่ยมถึงอันน่าประทับใจของจิตวิญญาณแห่งผู้นักบุกเบิกที่รักการผจญภัยของแบรนด์อีกด้วย
ซีรีส์ฉลองครบรอบ 50 ปี รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น จำนวน 1,957 เรือน นี้เป็นการรำลึกถึงจุดเริ่มต้นของคอลเลคชั่น Speedmaster นาฬิการุ่นนี้มีหน้าปัดอีนาเมลสีดำพร้อมกระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน หน้าปัดย่อยแสดงวินาที หน้าปัดจับเวลา 30 นาที และ 12 ชั่วโมง ประดับบนหน้าปัดพร้อมด้วยเข็มโครโนกราฟบริเวณตรงกลาง
ขอบตัวเรือนสีดำพร้อมสเกลทาคีมิเตอร์ประกอบกับตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 42 มม. ซึ่งมาพร้อมสายสแตนเลสสตีล หัวใจสำคัญของโครโนกราฟรุ่นนี้คือกลไก Co-Axial calibre 3201 ซึ่งเป็นกลไกแบบไขลานที่สามารถรับชมได้ผ่านฝาหลังที่ติดตั้งกระจกแซฟไฟร์
ซีรีส์ของนาฬิกาที่มีการกำหนดจำนวนการผลิตล่วงหน้าก่อนการผลิต และมีการจำกัดหมายเลขชุดเอาไว้
เข็มบนหน้าปัดย่อยที่แสดงเวลาวินาที โดยทั่วไปจะหมุนครบรอบในระยะเวลาหนึ่งนาที
ฟังก์ชั่นโครโนกราฟเป็นกลไกในการบอกแต่ละช่วงเวลา ด้วยเหตุนี้เอง นาฬิกาโครโนกราฟจึงสามารถจับเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ในขณะที่แสดงเวลาได้เหมือนกับนาฬิกาทั่วไป
เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
1 / 2
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
2 / 2
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
และหัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้คือระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ความเค้นบนชิ้นส่วนเคลื่อนไหวที่น้อยลงย่อมหมายถึงความต้องการในการหล่อลื่นที่น้อยลง ความแม่นยำที่ยาวนานขึ้น และอัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งขึ้น โดยสรุปคือ นาฬิการุ่นนี้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นและยังใช้งานได้ยาวนานกว่า
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
1 / 5
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
2 / 5
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
3 / 5
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
4 / 5
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
5 / 5
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
กลไกโครโนกราฟไขลานด้วยมือพร้อมกลไกระบบคอลัมน์วีลและระบบปล่อยจักร Co-Axial สปริงบาลานซ์แบบอิสระ เข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาทีขนาดเล็ก เข็มโครโนกราฟตรงกลาง กลไกชุบโรเดียมสีขาวพร้อมการตกแต่งด้วยลายคลื่น Geneva ชุบทองพร้อมขัดแต่งแบบวงกลม