ติดต่อบูติก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ขออภัย นาฬิกาเรือนนี้ไม่มีจำหน่ายแล้ว
ค้นหานาฬิกาเรือนอื่นOMEGA Speedmaster Spacemaster Z-33 นี้ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงตัวเรือนใน "คอลเลคชั่นการบิน" อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อีกทั้งยังติดตั้งกลไกควอตซ์แบบมัลติฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งได้แก่ calibre 5666 ด้วย ชุดเข็มบอกเวลาแบบอะนาล็อกโดดเด่นอยู่เหนือหน้าปัดดิจิทัล ซึ่งสามารถตั้งเวลาได้ด้วยเม็ดมะยม ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
รอบตัวเรือนนาฬิกาประกอบด้วยปุ่มกดสี่ปุ่มที่ทำงานควบคุมฟังก์ชั่นดิจิทัลต่างๆ ร่วมกับเม็ดมะยมได้อย่างครอบคลุม นาฬิกาเรือนนี้มีระบบการบอกเวลาหลายแบบ ซึ่งรวมถึงวันที่, UTC และโซนเวลาสองโซน นาฬิกาปลุก และปฏิทินถาวร
สามารถอ่านเวลาที่ผ่านไปโดยใช้ฟังก์ชั่นโครโนกราฟและระบบนับเวลาถอยหลัง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นนำร่องระดับมืออาชีพที่สามารถตั้งโปรแกรมได้เอง เพื่อบันทึกการบินได้มากถึงสิบเที่ยวบิน และแสดงบันทึกเหล่านั้นผ่านวันที่-ชั่วโมง ตัวเรือนผลิตจากไททาเนียมเกรด 5 นาฬิการุ่นนี้นำเสนอบนสายยางสีดำ
นาฬิกาข้อมือ หรือนาฬิกาจะส่งเสียงขึ้นมาโดยอัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
ช่วยให้ปรับเข็มชั่วโมงเป็นโซนเวลาต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องหยุดนาฬิกา
นาฬิกาที่มีการแสดงผลแบบดิจิทัล (หรือ แบบผสมทั้งอะนาล็อก/ดิจิตัลรวมกัน) ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ มากมาย เช่น นาฬิกาปลุก โครโนกราฟ ตัวจับเวลานับถอยหลัง ฯลฯ สามารถเลือกโหมดแสดงผลได้ตามต้องการ
ฟังก์ชั่นโครโนกราฟเป็นกลไกในการบอกแต่ละช่วงเวลา ด้วยเหตุนี้เอง นาฬิกาโครโนกราฟจึงสามารถจับเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ในขณะที่แสดงเวลาได้เหมือนกับนาฬิกาทั่วไป
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
“OMEGA Spacemaster Z-33: ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งการสำรวจ!”
ชัดเจนในทุกสภาพแสง
หน้าจอ LCD สีดำพร้อมส่วนสีแดงจะสว่างขึ้นจากไฟ LED ในพื้นหลังซึ่งจะปรับไปตามความสว่างของสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ วัสดุเรืองแสงอันโดดเด่นบนเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีสีขาวขนาดใหญ่ รวมถึงหลักชั่วโมงบนหน้าปัด ช่วยเพิ่มความชัดเจนในตอนกลางคืนได้อย่างน่าประทับใจ
ตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 5
สานต่อสัมผัสแห่งเทคโนโลยีขั้นสูงของนาฬิกาด้วยตัวเรือนไทเทเนียมที่มาพร้อมฝาหลังสองชั้น ฝาหลังด้านในสามารถกันน้ำได้ถึง 3 บาร์ (30 เมตร / 100 ฟุต) ส่วนบริเวณด้านนอกทำหน้าที่เป็นห้องเรโซแนนซ์เพื่อขยายเสียงแจ้งเตือน ด้านหลังมีการประดับด้วยรูปม้าน้ำ ‘Ω’ รวมถึงสลักข้อความ "Speedmaster" ขัดเงาวาววับตัดกับพื้นหลังผิวด้าน
ฟังก์ชั่นการใช้งานที่น่าประทับใจ
เสริมจากเข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาทีแบบอนาล็อก การใช้งานระบบดิจิตัลนั้นสามารถควบคุมได้ผ่านเม็ดมะยม และปุ่มกดทั้งสี่ปุ่ม ในบรรดาฟังก์ชั่นเหล่านี้ประกอบด้วย UTC เขตเวลาสองเขต นาฬิกาปลุก และปฏิทินร้อยปี อีกทั้งมีฟังก์ชั่นโครโนกราฟและตัวจับเวลานับถอยหลัง
1 / 2
ไทเทเนียมอัลลอยด์มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการสึกกร่อน ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมี และสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสุดขั้ว คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันเหมาะกับการผลิตในอุตสาหกรรมอากาศยาน ยานอวกาศ และการแพทย์ มันคือส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างความแข็งแรง ความทนต่อการสึกกร่อนและการใช้งานได้จริง ไทเทเนียมเกรด 5 ให้สีเทาสว่างคล้ายกับสแตนเลสสตีล เหมาะกับการขัดแต่งทั้งแบบ “ขัดด้าน” และ “ขัดเงา”
2 / 2
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
ไทเทเนียมอัลลอยด์มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการสึกกร่อน ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมี และสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสุดขั้ว คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันเหมาะกับการผลิตในอุตสาหกรรมอากาศยาน ยานอวกาศ และการแพทย์ มันคือส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างความแข็งแรง ความทนต่อการสึกกร่อนและการใช้งานได้จริง ไทเทเนียมเกรด 5 ให้สีเทาสว่างคล้ายกับสแตนเลสสตีล เหมาะกับการขัดแต่งทั้งแบบ “ขัดด้าน” และ “ขัดเงา”
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
เมื่อพูดถึงความน่าเชื่อถือ ไม่มีกลไกใดที่ดีไปกว่ากลไกที่เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ ดังนั้น การทำงานภายในนาฬิการุ่นนี้จึงใช้สัญญาณความถี่ของคริสตัลควอตซ์ที่ให้ความแม่นยำอย่างยิ่งเพื่อบอกเวลา โดยกลไกที่แม่นยำขั้นสุดนี้เลือกใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ที่ต้องการพื้นที่น้อย ทำให้สามารถออกแบบนาฬิกาให้บางยิ่งกว่าที่เคยได้
กลไกควอตซ์ของเราเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สัญญาณความถี่ของคริสตัลควอตซ์ที่ให้ความแม่นยำอย่างยิ่งเพื่อบอกเวลา โดยกลไกที่เป็นที่รู้จักในด้านความเที่ยงตรงขั้นสุดนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
แบตเตอรี่ควอตซ์สามารถมีอายุการใช้งานได้ระหว่าง 3 – 5 ปี ทำให้เวลาการใช้งานนั้นยาวนานเกินพอก่อนที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ด้วยกลไกควอตซ์นี้ คุณจึงมั่นใจได้ว่านาฬิกาของคุณจะเข้ารับการบริการน้อยลง
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
1 / 5
กลไกควอตซ์ของเราเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สัญญาณความถี่ของคริสตัลควอตซ์ที่ให้ความแม่นยำอย่างยิ่งเพื่อบอกเวลา โดยกลไกที่เป็นที่รู้จักในด้านความเที่ยงตรงขั้นสุดนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
2 / 5
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
3 / 5
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
4 / 5
แบตเตอรี่ควอตซ์สามารถมีอายุการใช้งานได้ระหว่าง 3 – 5 ปี ทำให้เวลาการใช้งานนั้นยาวนานเกินพอก่อนที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ด้วยกลไกควอตซ์นี้ คุณจึงมั่นใจได้ว่านาฬิกาของคุณจะเข้ารับการบริการน้อยลง
5 / 5
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว