OMEGA Speedmaster คือตัวเลือกที่นักบินอวกาศและหน่วยงานด้านอวกาศไว้วางใจมานานกว่าครึ่งศตวรรษ เรือนเวลามีส่วนร่วมในการผจญภัยนอกโลกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ และเป็นหนึ่งในนาฬิกาโครโนกราฟที่โด่งดังที่สุดในโลก หลังเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์เมื่อเดือนกรกฎาคม 1969
<p>
ด้วยคอลเลคชั่น " White Side of the Moon" ทาง OMEGA จะนำ Moonwatch ไปสู่ตำนานบทใหม่ นาฬิกาข้อมือขนาด 44.25 ม. ที่ผลิตมาอย่างพิถีพิถันรุ่นนี้ทำจากเซรามิกสีขาว พร้อมด้วยหน้าปัดเซรามิกขาวหรือจากเปลือกหอยมุก ซึ่งมอบพื้นผิวมันเงาสุกปลั่ง
<p>
โดดเด่นด้วยหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาทำจากไวท์โกลด์ 18K และสเกลทาคีมิเตอร์แบบดั้งเดิมบนขอบหน้าปัด หรือขอบหน้าปัดประดับเพชรให้ลูกค้าได้เลือกสรร โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมสายหนังสีขาวที่เข้ากันได้อย่างลงตัว Speedmaster "White Side of the Moon" หน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาทีและ 12 ชั่วโมงที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา พร้อมทั้งหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เช่นเดียวกับนาฬิการะดับตำนานรุ่นก่อนหน้า
<p>
นาฬิกาสวิสหรูขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Co‑Axial มอบความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ซึ่งสามารถชมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์แบบนูนบนฝาหลัง "White Side of the Moon" รังสรรค์ขึ้นสำหรับนักผจญภัยผู้มีรสนิยมที่ต้องมนต์เสน่ห์ของการออกแบบที่โดดเด่น ความสปอร์ต และสปิริตระดับตำนาน
OMEGA Speedmaster คือตัวเลือกที่นักบินอวกาศและหน่วยงานด้านอวกาศไว้วางใจมานานกว่าครึ่งศตวรรษ เรือนเวลามีส่วนร่วมในการผจญภัยนอกโลกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ และเป็นหนึ่งในนาฬิกาโครโนกราฟที่โด่งดังที่สุดในโลก หลังเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์เมื่อเดือนกรกฎาคม 1969
[READ_MORE]
ด้วยคอลเลคชั่น " White Side of the Moon" ทาง OMEGA จะนำ Moonwatch ไปสู่ตำนานบทใหม่ นาฬิกาข้อมือขนาด 44.25 ม. ที่ผลิตมาอย่างพิถีพิถันรุ่นนี้ทำจากเซรามิกสีขาว พร้อมด้วยหน้าปัดเซรามิกขาวหรือจากเปลือกหอยมุก ซึ่งมอบพื้นผิวมันเงาสุกปลั่ง
โดดเด่นด้วยหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาทำจากไวท์โกลด์ 18K และสเกลทาคีมิเตอร์แบบดั้งเดิมบนขอบหน้าปัด หรือขอบหน้าปัดประดับเพชรให้ลูกค้าได้เลือกสรร โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมสายหนังสีขาวที่เข้ากันได้อย่างลงตัว Speedmaster "White Side of the Moon" หน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาทีและ 12 ชั่วโมงที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา พร้อมทั้งหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เช่นเดียวกับนาฬิการะดับตำนานรุ่นก่อนหน้า
นาฬิกาสวิสหรูขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Co‑Axial มอบความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ซึ่งสามารถชมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์แบบนูนบนฝาหลัง "White Side of the Moon" รังสรรค์ขึ้นสำหรับนักผจญภัยผู้มีรสนิยมที่ต้องมนต์เสน่ห์ของการออกแบบที่โดดเด่น ความสปอร์ต และสปิริตระดับตำนาน