Breadcrumb
คอลเลคชั่นนี้ได้ตามติดทุกปรากฏการณ์ของดวงจันทร์ เฉกเช่นเดียวกับการบอกทุกช่วงเวลาของโลกได้อย่างงดงาม ซึ่งดูสมเหตุสมผลมากเนื่องจาก Speedmaster คือนาฬิกาเรือนแรกที่ได้รับการสวมใส่บนพื้นผิวดวงจันทร์ ด้วยมาตรฐาน Master Chronometer นาฬิกา Moonphase ยังได้เฉลิมฉลองให้กับอีกช่วงเวลาแห่งการบุกเบิก: มาตรฐานการทดสอบใหม่อันเข้มงวดของ OMEGA ที่กำหนดโดย METAS
การใช้สีที่เด่นชัดได้มอบรูปลักษณ์ที่โดดเด่นให้แก่นาฬิกา Moonphase แต่ละเรือน นอกจากหน้าปัดและขอบตัวเรือนเซรามิกที่มีให้เลือกหลากหลายแล้ว ยังมีตัวเลือกวัสดุที่น่าสนใจมากมายสำหรับตัวเรือน เช่น สแตนเลสสตีล เยลโลว์โกลด์ 18K ทอง Sedna™ 18K หรือแพลตินัม และสุดท้ายนี้ หน้าปัดย่อยคู่ที่มาพร้อมเข็มนาฬิกาสองเข็มในตัวยังได้มอบรูปลักษณ์แบบสมมาตรที่สวยงามให้นาฬิกาแต่ละเรือน
"…Liquidmetal™ ได้ถูกนำมาใช้บนสเกลทาคีมิเตอร์สำหรับ Speedmaster บางรุ่น…"
บทเรียนดาราศาสตร์ฉบับย่อ: เดือนทางจันทรคติไม่ได้มีระยะเวลา 30 วัน แต่เป็น 29.5 วันกับอีกเล็กน้อย นับเป็นระยะเวลาที่ไม่ง่ายสำหรับการทำงานของชุดเฟืองมาตรฐาน แต่นาฬิกา Moonphase ของ OMEGA นั้นสามารถจัดการได้ ในความเป็นจริง กลไกนี้ต้องอาศัยการปรับค่าเพียงครั้งเดียวทุกๆ 122 ปีเพื่อตั้งการแสดงผลให้ตรงกับตำแหน่งของดวงจันทร์
"มุมมองในระยะใกล้ของจาน Moonphase ในหลายรุ่นได้เผยให้เห็นรอยเท้าสุดไอคอนิกที่ทิ้งไว้บนพื้นผิวดวงจันทร์"
สำหรับรุ่นสแตนเลสสตีล ภาพของดวงจันทร์จะมาพร้อมรายละเอียดเหมือนกันกับภาพถ่ายของ NASA ซึ่งผลิตจากเทคนิคการจัดโครงสร้างระดับจุลภาคแบบพิเศษบนแผ่นคริสตัลโลหะ หากพิจารณาอย่างละเอียดคุณยังจะได้เห็นรอยเท้าของนักบินอวกาศที่ถูกเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
กลไก 9904 และ 9905 รุ่นใหม่ที่ปฏิวัติวงการมีองค์ประกอบเป็นชิ้นส่วนถึง 368 ชิ้น และยังถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของการผลิตนาฬิกา: มาตรฐาน Co-Axial Master Chronometer ได้มาถึงแล้ว
Carousel controls
นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาทีและ 12 ชั่วโมงที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา รวมถึงหน้าปัดวันที่และเข็มวินาทีย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ช่อง Moonphase อันน่าหลงใหลอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ชุดเข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงได้รับการเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova เพื่อมอบความสว่างไสวในสภาพแสงน้อย